TECLAST Android+Windows Tablet ยอดขายอันดับ 1

แบรนด์ Teclast อาจเป็นแบรนด์ที่ไม่คุ้นหูคนไทยมากนัก เพราะเพิ่งเข้ามาเริ่มทำตลาดในบ้านเรา แต่ในต่างประเทศแท็บเล็ตของ Teclast เป็นที่ยอมรับกันมากทีเดียว ในฐานะของแท็บเล็ตตัวแรงราคาประหยัด มีกลุ่มผู้ใช้รวมตัวกันบน Xda-developers อยู่มากพอสมควร ใครที่สนใจแท็บเล็ตแบรนด์นี้อยู่ รีวิวนี้ไทยแวร์จะมาแนะนำ Teclast X98 Pro Dual ให้รู้จักในทุกแง่มุม
Teclast X98 Pro Dual เป็นรุ่นยอดนิยมของ Teclast มีจุดเด่นที่ใช้ชิพ Cherry Trail ซึ่งเป็นชิพแบบ SoC รุ่นใหม่ บนสถานปัตยกรรมระดับ 14 นาโนเมตร ที่อินเทลเปิดตัวในปีนี้ มีระบบปฏิบัติการสองตัวภายในเครื่องเดียว นั่นคือ Windows 10 และ Android Lollipop 5.1 จะน่าสนใจขนาดไหน มาติดตามอ่านกัน
คุณสมบัติของ TECLAST tPad X98 Pro
  • ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ Android 5.1
  • หน้าจอขนาด 9.7 นิ้ว แบบ IPS capacitive touch screen ความละเอียด 2048*1536 พิกเซล มัลติทัช 10 จุด
  • ซีพียู Intel Cherry Trail X5 Z8500 Quad Core up to 2.24GHz สถาปัตยกรรม 14 นาโนเมตร
    กราฟฟิคการ์ด Intel HD Graphics Gen8
  • แรม 4GB (64 LPDDR3-1600 x 2)
  • หน่วยความจำภายใน 64GB (eMMC) ขยายเพิ่มได้ด้วยการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD สูงสุด 64GB
  • Bluetooth 4.0 / Wi-Fi / HDMI / Wi-Di functions
  • กล้องหลัง 5MP กล้องหน้า 2MP
  • ลำโพงแบบสเตอริโอ
  • แบตเตอรี่ขนาด 8,000 mAh
  • ขนาดเครื่อง 240x169x7.9 มม.
  • น้ำหนัก 510 กรัม
  • ราคา 11,900 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่อง
  • แท็บเล็ต X98 Pro
  • สาย Micro USB แบบยาว 1 เส้น, แบบสั้น 1 เส้น
  • อแดปเตอร์
  • คู่มือการใช้งาน

ดีไซน์และฮาร์ดแวร์ของ TECLAST tPad X98 Pro 

ว่ากันตามตรงแล้ว เจ้า X98 Pro Dual นั้นดีไซน์ออกมาคล้าย iPad Air 1 เลยล่ะครับ ขนาดเท่ากันเป๊ะ ใส่เคสร่วมกันได้เลย (แต่มีปัญหาตรงปุ่มอยู่กันคนละตำแหน่ง) ตัวเครื่องด้านหน้าเป็นกระจก ด้านหลังเป็นอลูมิเนียม งานประกอบจัดว่าดีเยี่ยมครับ ดูแข็งแรงทนทาน และมีข้อดีคือ ไม่ติดรอยนิ้วมือ
ขอบจอด้านข้าง 8 มม. ถือว่าบางทีเดียวครับ ส่วนขอบจอด้านบนกับด้านล่างจะอยู่ที่ 20 มม. เวลาถือใช้งานไม่มีปัญหาไปทัชโดนขอบจอโดยไม่ตั้งใจแต่อย่างใด น้ำหนักตัวเครื่องกำลังดีไม่หนักมากจนเกินไป ถือใช้งานมือเดียวได้สบาย 
หน้าจอของ X98 Pro มีความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 264ppi มากพอสำหรับการใช้งานทั่วไปและดูหนัง หากไม่เพ่งแบบจริงจัง แทบจะไม่เห็นรอยหยักของพิกเซล สีของหน้าจอสวยทีเดียว แสดงเฉดได้ธรรมชาติ และความเร็วในการตอบสนองต่อการสัมผัสดีมาก
กล้องหน้า 2MP คุณภาพพอใช้ได้ ทำวิดีโอคอลได้อย่างไม่น่าเกลียด กล้องหลัง 5MP คุณภาพพอใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สักเท่าไหร่ เพราะคงไม่มีใครใช้แท็บเล็ตถ่ายรูปเป็นหลักอยู่แล้วล่ะเนาะ
ปุ่มพาวเวอร์ และปุ่มเพิ่มลดเสียงวางตำแหน่งไว้ที่ตัวเครื่องบริเวณซ้ายบนของด้านข้าง ส่วนพอร์ทในการเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ด้านซ้ายล่าง ซึ่งให้มาอย่างครบครัน มี MicroUSB 2.0, ช่องเสียบหูฟังมาตรฐาน 3.5 mm และช่อง micro HDMI out สำหรับต่อสัญญาณภาพออกจอภายนอกได้ ช่วยให้การพรีเซนต์งาน, ดูหนัง หรือเล่นเกมส์ได้สะดวก ใช้แทนโน๊ตบุ้คได้เลย
ด้านประสิทธิภาพไม่ต้องกังวล Intel Cherry Trail X5 Z8500 Quad Core up to 2.24GHz ทรงพลังพอที่จะรับมืองานต่างๆ ได้อย่างสบาย แม้จะเป็นการเล่นเกมสามมิติก็ยังไหว แถมด้วยแรมอีก 4GB มั่นใจได้เลยว่าหน่วยความจำจะเพียงพอต่อการใช้งาน




การใช้งาน Windows
เดิมที เวลาผมต้องไปหาลูกค้า จำเป็นต้องพกโน๊ตบุ๊คเพื่อไปเปิดพรีเซนเทชั่น แม้ว่าผมจะใช้ Surface แต่เอาจริงๆ มันก็ยังถือว่าหนักนะ เมื่อต้องแบกทั้งวัน ซึ่งจุดนี้ X98Pro สามารถแก้ปัญหาให้ผมได้ เพราะมันมีพอร์ท HDMI ให้มาด้วย เราสามารถต่อการแสดงผลออกไปยังจอคอมพิวเตอร์หรือโปรเจคเตอร์ได้อย่างสะดวกสบาย เอามาแทนที่โน๊ตบุ๊คได้เลย
ไม่ว่าเราจะใช้ X98 Pro Dual มาทำงานหรือเล่นเกมส์ คุณอาจจะมองว่าแท็บเล็ตตัวบางๆ เพียงแค่นี้ จะไหวเหรอ ต้องบอกไว้เลยว่า Cherry Trail X5 Z8500 นั้นทรงพลังมากทีเดียว ลองเล่น LoL หรือ Counter Strike มันสามารถรับมือได้หมด และเมื่อเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล การทำงานทั่วไปจึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ไม่ว่าจะทำเอกสารผ่าน Office หรือเล่นอินเตอร์เน็ตสตรีมวิดีโอระดับ 4K 




ทั้งนี้ เราพบว่าการใช้ Chrome บน Windows 10 นั้น ดูเหมือนจะมีปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรเครื่อง Chrome ทำงานได้ค่อนข้างช้าและสูบแบตเตอรี่สูงมาก แต่ปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นกับ Microsoft Edge ถ้าจะดู YouTube ระดับ 4K แนะนำให้ใช้ Edge ดูจะดีกว่ามากทีเดียว (จริงๆ การเซิฟเน็ตทั่วไป เราก็พบว่า Chrome ใช้ทรัพยากรสูง เปลืองแบตฯ กว่า Edge เยอะเลย)


การใช้งาน Android
แอนดรอยด์บน X98 Pro Dual  เป็นเวอร์ชั่นใหม่ Lollipop 5.1 ในอนาคตจะได้ไป Mashmallow 6.0 หรือไม่ ยังต้องจับตาดูไปก่อน รอมทำออกมาเรียบๆ UI สไตล์ iOS ไม่มีหน้าแอพฯ Drawer ให้ซับซ้อน 
ก่อนอื่นเลยที่ขัดใจกับรอม คือ เราพบว่ามี "แอพฯ จีน" Pre-install มาหลายตัว ซึ่งเราคงไม่รู้สึกโอเคกับมันเท่าไหร่ แต่ว่ายังดีที่แอพฯ เหล่านี้ เราสามารถลบออกได้ด้วยตนเองโดยตรงเหมือนการลบแอพฯ ทั่วไป *เห็นว่าในอนาคตจะมีการปรับปรุงลบแอพฯ จีนเหล่านี้ออก
Screenshot_2015-10-28-16-02-54
แรม 4GB เมื่อทำงานบน Windows อาจจะดูธรรมดา แต่เมื่อมาอยู่บน Android มันเหลือเฟือเลยล่ะครับ การมัลติทาร์กกิ้ง ทำได้เร็วมาก ผล Benchmark ออกมาเป็นที่น่าพอใจทีเดียว การเล่นเกมไม่มีปัญหา แม้แต่เกมใหม่อย่าง Implosion ที่กราฟฟิคอลังการ ก็ลื่นมากครับ
Screenshot_2015-10-28-18-03-29
สำหรับโหมดแอนดรอยด์ เราจะมีหน่วยความจำให้มาประมาณ 20GB ก็เยอะทีเดียว หากไม่พอก็ขยายด้วยการ์ด microSD ได้ การติดตั้งแอพฯ ทำผ่าน Play Store ได้เลยโดยตรง เหมือนแอนดรอยด์ทั่วไป 
Screenshot_2015-10-28-16-10-46

แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ X98 Pro เท่าที่ใช้งานผมพบว่า ถ้าใช้งานทั่วไป อยู่ได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง และหากว่าเล่นเกมส์จะยิ่งหมดเร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็เป็นปกติของอุปกรณ์ประเภทนี้อยู่แล้ว ปัญหาที่ลำบากหน่อย ก็คือ มันต้องชาร์จผ่านอแดปเตอร์ 2.5A ถึงจะชาร์จเข้า เป็นการยากที่เราจะหาพาวเวอร์แบงค์ 2.5A มาใช้งาน เราจึงต้องพกอแดปเตอร์ของมันไปด้วย
_MG_9487

ข้อดี
  • ขนาดเล็กพกพาง่าย
  • หน้าจอแสดงผลสวยงามและให้สัมผัสในการทัชที่ดี
  • งานประกอบสวยงาม
  • ใช้งานได้ทั้ง Windows และ Android
  • มีพอร์ท HDMI ต่อหน้าจอภายนอกได้
ข้อเสีย
  • ชาร์จไฟ 2.5A แอบลำบาก ไม่สามารถชาร์จผ่านพาวเวอร์แบงค์ทั่วไปได้
  • Windows 10 บน Tablet ก็ยังเป็นอะไรที่ยังไม่ลงตัวอยู่ดี ถ้าไม่ต่อเมาส์กับคีย์บอร์ดนี่งานหยาบ
  • กล้องธรรมดา
แท็บเล็ตตัวนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวสำหรับการใช้งานเบาๆ ทั่วไป เล่นเน็ต ท่องเว็บ ดูหนัง ส่วนการเล่นเกมส์บนวินโดวส์ ถึงผมจะบอกว่ามันรับมือได้ แต่ความร้อนที่เกิดขึ้น ทำให้ซีพียูทำงานช้าลงส่งผลให้ FPS ตก ก็พอเล่นได้ขำๆ แต่ไม่เหมาะกับการเล่นจริงจังยาวๆ เป็นเครื่องหลัก ส่วนการเล่นเกมส์บนแอนดรอยด์ไม่มีปัญหา

ที่มา : http://review.thaiware.com/834.html

อันตรายคาดไม่ถึง ! เด็กชายถูกสุนัขกัดหน้าเหวอะ หลังพยายามถ่ายเซลฟี่ด้วย




  พ่อ-แม่ชาวอังกฤษฟ้องศาล หลังลูกชายถูกสุนัขบ้านเพื่อนกัดหน้าขณะถ่ายเซลฟี่คู่ด้วย จนเป็นแผลเหวอะ ต้องเย็บถึง 21 เข็ม ด้านเจ้าของทำเพียงส่งข้อความขอโทษ 

          รายงานจากเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2559 เผยว่า ศาลเมืองเชล์มสฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ได้ทำการพิจารณาคดีกรณีของเด็กชายวัย 11 ขวบ หลังถูกเจ้าดิกบี้ สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ สัตว์เลี้ยงของ สจ็วต แฮร์ริส วัย 45 ปี กัดเข้าที่ใบหน้า จนเกิดเป็นแผลเหวอะหวะ ต้องเย็บถึง 21 เข็ม

  โดยเด็กชายที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเพื่อนของลูกชายนายแฮร์ริส ในวันเกิดเหตุเด็กชายได้ไปนั่งเล่นอยู่บนโซฟาที่บ้านเขา แล้วเจ้าดิกบี้ก็กระโดดขึ้นมา เด็กชายจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย แต่ปรากฏว่าถูกมันงับกัดเข้าที่แก้มจนเป็นรอยเขี้ยวเหวอะ และกลายเป็นแผลเป็นจนถึงทุกวันนี้ 

          ด้านแม่ของเด็กชาย เผยว่า หลังจากเกิดเหตุลูกชายของเธอกลายเป็นคนกลัวสุนัขไปเลย โดยเฉพาะสุนัขตัวใหญ่ อย่างเช่นเวลาเดินอยู่ หากเจอสุนัขก็จะรีบข้ามถนนหนี หรือแม้กระทั่งไปเล่นบ้านเพื่อนที่เลี้ยงสุนัขก็จะต้องให้เขาจับใส่กรงก่อนทุกครั้ง ส่วนตัวลูกชายที่ใบหน้ากลายเป็นแผลเป็นก็รู้สึกอับอาย ขณะที่นายแฮร์ริส มีเพียงแค่ส่งข้อความมาขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น เธอเองรู้สึกเสียใจและสงสารลูกชายมาก คงไม่มีใครยอมทนเห็นลูกตัวเองบาดเจ็บได้ขนาดนี้ 

          โดยหลังจากการพิจารณาคดี ทางศาลมีความเห็นว่านายแฮร์ริส มีความผิดฐานปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลควบคุมสุนัขของตน จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินโทษให้นายแฮร์ริสไปทำงานเพื่อสังคม 200 ชั่วโมง และจ่ายค่าชดเชยให้ครอบครัวเหยื่อเป็นจำนวน 5,000 ปอนด์ (ราว 235,000 แสนบาท) รวมทั้งจ่ายค่าปรับอีก 8,000 บาท


ที่มา http://hilight.kapook.com/view/139516





แม่ค้าเขียงหมูเปิดใจ ทำไมต้องใส่สารบอแรกซ์ ลั่น ไม่มีร้านไหนไม่ใส่ !?




แม่ค้าเขียงหมูเปิดใจ เหตุต้องใส่สารบอแรกซ์ไปในเนื้อหมู เพื่อให้ดูสดใหม่ ไม่เขียว หากไม่ใส่ ลูกค้าก็จะไม่รับของ ขายไม่ได้ 

            หลังจากตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ปทุมธานี ได้เข้าตรวจแผงจำหน่ายเนื้อหมูภายในตลาดสี่มุมเมือง อ.ลำลูกกา เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่าตลาดแห่งนี้อาจจำหน่ายเนื้อหมูปนเปื้อนสารบอแรกซ์ เพื่อให้เนื้อหมูดูสด เด้ง ไม่บูดเสียง่าย แต่สารดังกล่าวอาจมีการตกค้าง เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งเมื่อตรวจสอบเขียงหมูทั้งหมด 36 แผง พบมีการลักลอบเก็บสารบอแรกซ์ไว้ใส่ในเนื้อหมูทั้งหมด 8  แผง ขณะหนึ่งในผู้ค้ายอมรับว่ามีการใส่สารบอแรกซ์ในเนื้อหมูจริง ซึ่งผู้ค้ารายย่อยที่รับไปขายต่อก็ทราบดี และบางรายก็ต้องการให้ใส่ด้วย


   ล่าสุด (20 มิถุนายน 2559) ทาง Bright News ก็ได้เปิดเผยคลิปสัมภาษณ์แม่ค้าเขียงหมูรายหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่าใส่สารบอแรกซ์ในเนื้อหมูจริง โดยให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ใส่ลูกค้าก็บอกว่าเขียว ลูกค้าให้ใส่ พอไม่ใส่ลูกค้าก็จะถามว่า วันนี้ไม่ได้ใส่ยามาให้เหรอ มันเขียว ถ้าเราไม่ใส่ เราก็ขายไม่ได้ ถ้าเราเลือกจะแช่เย็น ก็ไม่ต้องใส่สารบอแรกซ์ แต่พอเนื้อหมูเย็น ลูกค้าก็ไม่รับอยู่ดี พอไม่ใส่ หมูจะเขียว วันรุ่งขึ้นลูกค้าก็เอามาคืน ถ้าเรารับคืนมาก็ต้องทิ้งอย่างเดียว พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า "มันเหมือนกันทุกร้าน เขาใส่กันหมดทุกร้าน ตั้งแต่หัวยันท้าย ไม่มีร้านไหนที่ไม่ใส่"

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ช่อง 8 

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/138506