บุหรี่และมะเร็งปอด

ผลการศึกษา - วิจัยของนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ทั่วโลกยืนยันแล้วว่า มะเร็งปอดเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสูบบุหรี่ ทั้งผู้สูบบุหรี่เองโดยตรงและผู้ได้รับควันหลง

โดย

ปี พ.ศ. 2506 ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งอังกฤษ ประกาศเป็นทางการว่าการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปอด

ปี พ.ศ. 2507 ประธานแพทย์ใหญ่กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา ประกาศเป็นทางการว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอดและโรคปอดเรื้อรัง
ปี พ.ศ. 2529 ที่ประชุมสมัชชา องค์การอนามัยโลก มีมติว่าสูบบุหรี่เป็นอุปสรรคของการมีสุขภาพดีถ้วนหน้าของประชากรโลก และเป็นอุปสรรคของการมีสุขภาพดีในผู้ไม่สูบที่ต้องรับควันหลง
  • ศ นพ. ธีระ ลิ่มศิลา ได้รวบรวมสถิติผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดตั้งแต่ปี 2510 - 2536 รวมประมาณ 2,000 ราย พบว่า ผู่ป่วยมะเร็งปอดชายมีประวัติเป็นผู้สูบบุหรี่ถึงร้อยละ 92
  • นพ. เวทย์ อารีย์ชน รายงานจากโรงพยาบาลโรคทรวงอกถึงพฤติกรรมของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดจำนวน 2,660 ราย ระหว่าง พ.ศ. 2514 - 2526 พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดชายมีประวัติสูบบุหรี่ร้อยละ 96 และจากรายงานของสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่า ในปัจจุบันโรคมะเร็งปอดพบมากเป็นอันดับหนึ่งในผู้ชายไทย


  • ข้อมูลจาก : คู่มือบุหรี่และสุขภาพ สถาบันควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข




    สารพิษในบุหรี่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคมะเร็ง

    สารประกอบในควันบุหรี่ มีสารก่อมะเร็งไม่ต่ำกว่า 42 ชนิด
    สถาบัน มะเร็งแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา ได้มีรายงานอย่างเป็นทางการว่า โรคมะเร็งทั้งหมดนั้น ร้อยละ 33 มีสาเหตุมาจาก "บุหรี่" สารพิษในบุหรี่ที่ก่อให้เกิดมะเร็ง อย่างเช่น
    1. สารทาร์ หรือ น้ำมันดิน เป็นส่วนประกอบสำคัญของใบยาสูบ มีลักษณะเหนียว สีน้ำตาลเข้ม เป็นสารก่อมะเร็ง โดยสารที่เรียกว่า Benzopyrene สารนี้ก่อการระคายเคืองเรื้อรังทำให้มีอาการไอ ถุงลมโป่งพอง
    2. สารกัมมันตรังสี ในควันบุหรี่มีสารโพโลเนียม - 210 ที่ให้รังสีแอลฟา ทำให้เกิดการระคายเคืองเรื้อรังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
    3. ยาฆ่าแมลง สารตกค้างในใบยาสูบจาการพ่นสารพิษเพื่อฆ่าแมลง

    ข้อมูลจาก : คู่มือบุหรี่และสุขภาพ สถาบันควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข




    อาการของโรคมะเร็งปอด

    มะเร็งปอด ระยะแรกมักไม่มีอาการ ส่วนใหญ่ที่มีอาการแสดงว่าโรคเป็นมากแล้ว อาการที่อาจพบได้ เช่น
    1. ไอเป็นเลือด
    2. น้ำหนักลดรวดเร็ว
    3. หอบเหนื่อย
    4. บวมบริเวณคอ หน้า แขน อก จากก้อนกดทับเส้นเลือดดำใหญ่
    5. กลืนอาหารลำบาก
    6. มีก้อนที่คอ (มะเร็งกระจายไปต่อมน้ำเหลืองที่คอ)
    7. ปวดกระดูกซี่โครง ไหปลาร้า ปวดกระดูกสันหลัง (มะเร็งกระจายไปกระดูก)
    8. แขน ขา อ่อนแรง (มะเร็งกระจายไปสมอง)
    โดยอาการดัง กล่าวข้าวต้นมักเป็นอาการร่วมของโรคต่างๆได้ เพราะฉะนั้นหากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้อง เพื่อรับการรักษาต่อไป


    ข้อมูลจาก : คู่มือบุหรี่และสุขภาพ สถาบันควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข




    ความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอด

    โดยเฉพาะผู้สูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเป็น โรคมะร็งปอดมากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ 12 เท่า แต่หากสูบมานาน 21-40 ปี โอกาสเสี่ยงมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 30 เท่า และจากสถิติของสหรัฐอเมริกาพบว่าร้อยละ 30 ของผู้ป่วยมะเร็งปอดที่มิได้สูบบุหรี่เกิดโรคมะเร็งจากควันบุหรี่ที่ผู้อื่น สูบ

    มะเร็งปอดจัดเป็นมะเร็งอันดับหนึ่งในชายไทย ส่วนในภาคเหนือที่มีอัตราการสูบบุหรี่สูงสุดภาคหนึ่ง พบว่า มีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดทั้งในบุรุษและสตรีสูงกว่าภาคอื่นๆ

    ข้อมูลจาก : คู่มือบุหรี่และสุขภาพ สถาบันควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข




    ถ้าหยุดสูบบุหรี่จะมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดหรือไม่

    หากผู้สูบบุหรี่สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรในปอดจะสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งปอด ได้ และหากเลิกได้นาน 10-150ปี จะลดอัตราเสี่ยงของมะเร็งปอดลงครึ่งหนึ่ง

    ผู้ที่สูบบุหรี่จัด (มากกว่าวันละ 1 ซอง) จะเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุน้อย จะมีโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งปอดและโรคภัยจากบุหรี่สูงที่สุด

    ข้อมูลจาก : คู่มือบุหรี่และสุขภาพ สถาบันควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข