คดีข่มขืน8ขวบ ลงเอยพ่อแขวนคอหนีผิด



หวิดเป็นศพในห้องขัง หลังตร.เจอดีเอ็นเอมัด สารภาพเมายาหน้ามืด!
ตำรวจรวบเพิ่มฆาตกรวิปริตข่มขืนฆ่าเด็กหญิง 8 ขวบ ตะลึงเป็นพ่อแท้ๆ เหยื่อโหด นำตัวจากวัดที่ตั้งศพเด็กสอบเค้นจนเปิดปากรับสารภาพอ้างเสพยาบ้าแล้วเข้าไปนอนกับเหยื่อตามปกติ แต่ฤทธิ์ยานรกทำให้ลงมือโดยขาดความยั้งคิด แต่พอถูกส่งเข้าห้องขังไม่ทันข้ามคืน กลับใช้เชือกกางเกงกีฬาผูกคอกับก๊อกน้ำหวังฆ่าตัวตาย แต่ตำรวจช่วยไว้ได้ทัน ส่งรักษาตัวจนพ้นขีดอันตราย ด้าน ผบช.ภ.9 ยันตำรวจทำไปตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันพ่อผู้ตายร่วมก่อเหตุด้วย ส่วนคนร้ายน่าจะมีไม่น้อยกว่า 2 คน มั่นใจลากคอดำเนินคดีได้แน่
จากเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 ถูกคนร้ายหื่นกามบุกเข้าไปข่มขืนวิตถารขณะนอนหลับอยู่กับพี่น้องในบ้านพื้นที่ ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง หลังหลอกให้กินยาบ้าผสมน้ำอัดลม กระทั่งแม่น้องเก๋กลับจากกรีดยางมาถึงบ้านในตอนเช้าวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา พบน้องเก๋มีอาการปวดท้องรุนแรงเพ้อคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่อง พาไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์ตรัง ถึงรู้ว่าถูกข่มขืนทารุณและมอมยาบ้า แต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ น้องเก๋เสียชีวิตอนาถในตอนค่ำวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังเข้ารักษาอาการไม่ทันข้ามวัน ต่อมาตำรวจจับกุมนายศรัณย์รัชต์ ซู่สั้น หรือเฟิร์ส อายุ 20 ปี เพื่อนบ้านที่สนิทสนมกัน ดำเนินคดีโดยนายศรัณย์รัชต์ให้การปฏิเสธ ขณะที่ญาตินายศรัณย์รัชต์ร้องขอความเป็นธรรมอ้างว่าตำรวจ “จับแพะ”
ความคืบหน้าค่ำวันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ท.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด รอง ผกก.ป.สภ.บ้านหนองเอื้อง รองหัวหน้าชุดเฉพาะกิจคลี่คลายคดีฆ่าน้องเก๋ นำกำลังเดินทางไปที่วัดต้นปีก หมู่ 4 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง สถานที่เก็บศพน้องเก๋ หนูน้อยเหยื่อกามโฉด เชิญตัวนายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ทองย้อย อายุ 33 ปี พ่อน้องเก๋ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ บก.ภ.จ.ตรัง เนื่องจากผลการตรวจดีเอ็นเอคนร้ายที่พบในร่างน้องเก๋ตรงกับดีเอ็นเอของนายกิตติศักดิ์ นอกจากนี้จากการสอบสวนที่ผ่านมา นายกิตติศักดิ์ให้การว่า วันเกิดเหตุนอนหลับอยู่ข้างบ้านไม่ได้ไปกรีดยางกับภรรยาตามที่แม่น้องเก๋ให้การไว้ ประกอบกับนายกิตติศักดิ์ยอมรับว่าเสพยาบ้า เนื่องจากตรวจพบฉี่สีม่วง
ในการสอบปากคำนายกิตติศักดิ์ครั้งนี้มี พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จ.ตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จ.ตรัง พ.ต.อ.ธนชาต บุญโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ตรัง พ.ต.ท.ปรีชา ชูแก้ว รอง ผกก.สส.ภ.จ.ตรัง ร่วมสอบปากคำจนนายกิตติศักดิ์เปิดปากรับสารภาพ ตำรวจไปขออนุมัติศาลออกหมายจับเลขที่ จ.229/2559 ลงวันที่ 23 พ.ค.2559 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน โดยเด็กไม่ยินยอม โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต” ก่อนส่งไปควบคุมตัวที่ สภ.เมืองตรัง เพื่อดำเนินคดี นับเป็นผู้ต้องหาคนที่สองของคดีนี้
ต่อมาเวลา 06.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ร.ต.ท.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจาก จ.ส.ต.วีระศักดิ์ หนูพุ่ม สิบเวร สภ.เมืองตรัง ว่ามีผู้ต้องหาใช้เชือกผูกคอกับก๊อกน้ำภายในห้องขัง สภ.เมืองตรัง อาการสาหัสนอนหายใจรวยริน รีบเข้าไปช่วยเหลือพบว่าผู้ต้องหาที่พยายามฆ่าตัวตายคือนายกิตติศักดิ์คนร้ายข่มขืนน้องเก๋ลูกสาวของตัวเองที่เพิ่งถูกส่งมาควบคุมตัวได้ไม่กี่ชั่วโมง ใช้เชือกกางเกงกีฬาผูกคอกับก๊อกน้ำ ประสานไปยังศูนย์นเรนทร รพ.ศูนย์ตรัง ส่งไปรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ศูนย์ตรัง พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
ที่ บก.ภ.จ.ตรัง ตอนสายวันเดียวกัน พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จ.ตรัง พร้อมชุดสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ร่วมแถลงข่าวนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาพยายามผูกคอฆ่าตัวตาย โดย พล.ต.ท.วีรพงษ์กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นนายกิตติศักดิ์ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีการเสพยาบ้าก่อนจะเข้าไปนอนกับลูกสาวตามปกติ ซึ่งเป็นห้องนอนรวม และรับว่าด้วยฤทธิ์ของยาทำให้ลงมือก่อเหตุโดยขาดความยั้งคิด ตำรวจก็ได้นำตัวนายกิตติศักดิ์ไปควบคุมต่อโดยกำชับให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในระหว่างสอบสวนเห็นแล้วว่านายกิตติศักดิ์มีความเครียดสูงมาก มีอาการเกร็งและร้องไห้ กระทั่งเมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมานายกิตติศักดิ์ ได้ใช้เชือกจากกางเกงกีฬาที่สวมใส่อยู่มาผูกคอตัวเองกับก๊อกน้ำในห้องน้ำของห้องขัง ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว คาดว่าสาเหตุที่นายกิตติศักดิ์พยายามฆ่าตัวตายเพราะเครียดที่ถูกจับกุม
ผบช.ภ.9 กล่าวต่อว่า คดีนี้ พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จ.ตรัง เป็นผู้รับผิดชอบงานสืบสวน ส่วนฝ่ายสอบสวนมอบหมายให้ พ.ต.อ.อรุณ กุลสิรวิชย์ รอง ผบก.ภ.จ.ตรัง ดูแล โดยทางฝ่ายสอบสวนได้มีการส่งหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ เช่นเครื่องแต่งกายของเด็ก เส้นขน เส้นผม และรอยคราบบนที่นอน ส่งไปตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.หาดใหญ่) เปรียบเทียบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัย 7 คน ขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว โดยผลการตรวจได้ออกมาแล้วบางส่วน แต่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ผลปรากฏว่าหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจพบสามารถระบุได้ชัดเจนว่านายกิตติศักดิ์พ่อแท้ๆของผู้ตายมีส่วนในการก่อคดีนี้ ในส่วนที่เหลือต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะทราบผลที่ชัดเจน หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครจะจับกุมหมด คาดผู้ต้องหาที่ลงมือมีไม่ต่ำกว่า 2 คน
พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 กล่าวย้ำอีกว่า ขอให้เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะให้ความเป็นธรรม แม้ว่าในเบื้องต้น นายศรัณรัชย์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้จะให้การปฏิเสธ รวมถึงพ่อแม่ผู้ต้องหาออกมาร้องว่าลูกเป็นแพะ ทางตำรวจก็ดำเนินไปตามพยานหลักฐานและขั้นตอนของกฎหมาย ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และมั่นใจว่าตำรวจจะสามารถปิดสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งให้อัยการได้แน่นอน
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/625273